จัดสวนสไตล์ยุโรป
จัดสวนสไตล์ยุโรป จัดสวนยุโรปด้วยไม้ไทย 2 สไตล์ความต่างที่ลงตัวไอเดียจัดสวนสไตล์ยุโรป ที่นักจัดสวนชื่อดังได้ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับอากาศเมืองร้อน โดยการนำต้นไม้ไทยเข้ามาตกแต่งและผสมผสานจนออกมาลงตัว สำหรับคนที่ชื่นชอบบรรยากาศชวนฝันแบบสวนสไตล์ยุโรป แต่กลัวว่าหากนำไม้เมืองหนาวมาปลูกคงไม่รอดแน่ ๆ นิตยสาร room เลยขอนำเสนอไอเดียจัดสวนสไตล์ยุโรปด้วยไม้ไทยหลากหลายชนิด เพื่อให้เข้ากับอากาศของเมืองร้อน แต่ยังคงรักษาและมีกลิ่นอายของสวยสไตล์ยุโรปแบบครบถ้วนสมบูรณ์EUROPE GARDEN –
ไม้ไทยในสวนยุโรป- (Outdoor Design/Room) พี่วิทย์ แห่งลิตเติ้ลทรี คือนักจัดสวนชื่อดังที่คนในวงการออกแบบสวนนิยมเรียกกัน คุณวิทย์เล่าให้เราฟังถึงเหตุผลที่ได้มาจัดสวนแห่งนี้ว่า “เพื่อนที่เป็นมันณฑนากรออกแบบเรือนกระจกให้บ้านหลังนี้เป็นคนชวนมาออกแบบ เดิมพื้นที่มีไม่มากขนาดนี้ แต่เพราะเจ้าของบ้านอยากมีพื้นที่ปาร์ตี้ในสวนจึงตัดสินใจซื้อที่เพิ่มเติม สำหรับคอนเซ็ปต์การออกแบบ ตั้งใจจัดแบบกึ่งฟอร์มัล
(Formal) คือจัดสวนสไตล์ยุโรปแต่ใช้พรรณไม้ไทยมาช่วยลดความแข็งให้ดูนุ่มนวลและรู้สึกสบาย ๆ เหมาะจัดปาร์ตี้สังสรรค์ อีกทั้งยังเข้ากับเรือนกระจกสีขาวที่ตั้งอยู่เดิมด้วย” นอกจากนี้คุณวิทย์ยังบอกอีกว่า การจัดสวนสไตล์ยุโรปในเมืองร้อนอย่างบ้านเรา ไม่สามารถใช้พรรณไม้อย่างยุโรปได้ เขาจึงมีวิธีเน้นการสร้างบรรยากาศให้เหมือนสวนสไตล์ยุโรปแทน โดยใช้พรรณไม้หาง่ายในเมืองไทย มีใบละเอียด เช่น ผักชีลาว
สนหอม หลิวแคระ และสนออสเตรเลีย เพื่อให้สามารถแต่งทรงเป็นสวนแบบฟอร์มัลได้ง่าย อีกเทคนิคคือการคิดธีมสี อย่างสวนนี้กำหนดไว้ว่าต้องเป็นสีธีมพาสเทล เมื่อได้ธีมสีแล้วจะช่วยให้การเลือกดอกไม้ทำง่ายขึ้น และเห็นภาพสวนชัดเจน ส่วนดอกไม้ที่เลือกใช้เน้นแนวหวานละมุนหาซื้อง่ายตามตลาดต้นไม้ทั่วไป เช่น พยับหมอก ไฮเดรนเยีย และยี่โถแคระ
แม้จะใช้เวลาการออกแบบและลงต้นไม้ไม่นานเพียงหนึ่งเดือน แต่ก็มีเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษอย่างเรื่องการลงต้นไม้ใหญ่ เนื่องจากสวนนี้ไม่มีต้นไม้เดิมอยู่เลย ช่วงลงต้นไม้ใหญ่ต้องระวังเสาไฟแรงสูง ทั้งยังต้องคำนึงถึงอนาคตด้วยว่ากิ่งไม้จะมีผลกระทบกับสายไฟหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องเตรียมการให้พร้อม รวมถึงการดูแลรักษาด้วย read more
สุดท้ายคุณวิทย์ได้ฝากถึงนักอ่านของ room ที่ชื่นชอบสวนสไตล์ยุโรปว่าแท้จริงแล้วสวนสไตล์นี้จัดไม่ยากอย่างที่หลายคนกังวล แถมยังดูแลง่าย เพราะฟอร์มการจัดวางมีลักษณะเป็นรูปทรงเรขาคณิต ดูเรียบง่ายเป็นทางการและไม่มีอะไรซับซ้อน ดูแลเพียงตัดแต่งกิ่งทุก ๆ สิบห้าวัน (ไม่ควรเกินหนึ่งเดือน) ส่วนการเลือกพรรณไม้ให้เหมาะกับพื้นที่จำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องแสงแดด เพื่อให้ไม้พุ่มเจริญเติบโตได้ดี ดูสดชื่นตลอดทั้งวันรู้อย่างนี้แล้วถ้าอยากมีสวนสวย ๆ แบบนี้ในบ้านบ้างก็อย่าลังเล เริ่มต้นจากชวนสมาชิกในครอบครัวไปช่วยกันเลือกต้นไม้ในวันหยุดที่จะถึงนี้กันเลย !
การจัดสวน ต้องจัดแต่งตามความรักความชอบของผู้อยู่อาศัย ซึ่งหลายคนอยากมีสวนที่สวยงามและลงตัว แต่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะจัดสวนแบบไหนดี เราจึงนำเอาสวนสวยๆ ถึง 8 สไตล์มาแนะนำ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สนใจจัดสวนเลือกศึกษาเพิ่มเติมในแบบที่ตัวเองชอบ ไปดูกันเลยค่ะ คงจะยากหากให้นึกถึงสวนยุโรปสไตล์เก๋ ๆ ในบ้านเรา เพราะนอกจากเรื่องการออกแบบแล้ว การเลือกพรรณไม้
และฟังก์ชันใช้งานก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน อย่างสวนสวยใจกลางเมืองของคุณนพพร และคุณฐิติรัตน์ เหมะจันทร์ ที่ได้นักออกแบบคิวทองอย่าง คุณศิริวิทย์ ริ้วบำรุง แห่ง Little Tree Garden มารับหน้าที่ช่วยออกแบบ เปลี่ยนบรรยากาศสวนเดิมให้มีเสน่ห์รายล้อมด้วยพรรณไม้ดูแลง่ายเหมาะกับอากาศบ้านเรา
8 สไตล์มาแนะนำ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สนใจจัดสวน
1. สวนสวยเมืองร้อน สไตล์ไทย (Thai Styles Garden)
ประเทศไทยนั้นเป็นเมืองร้อน ทุกบ้านจึงเน้นปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น ร่มเงา แก่บริเวณบ้าน อย่างน้อย 1 ต้นขึ้นไป และเติมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ลดหลั่นกันลงมา นอกจากความร่มรื่นแล้วสวนยังแสดงออกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอีกด้วย ต้นไม้นั้นเข้ากับบ้านเกือบทุกชนิด ทั้งเรือนไม้ทั้งหลัง เรือนไม้ผสมปูน บ้านทรงไทย ก็จะทำให้สไตล์ของสวนเด่นชัดมากขึ้น แต่หากบ้านเป็นรูปทรงสมัยใหม่การใช้ต้นไม้ไทยๆ ตกแต่งก็ไม่ผิดแต่อย่างใด
สวนสไตล์ไทยนั้นเสริมด้วยความเชื่อโบราณ เลือกปลูกต้นไม้มงคลไว้กับบ้าน ต้นไม้ที่นิยมในสวนไทยได้แก่ ต้นมะยม ต้นขนุน ต้นมะม่วง นิยมปลูกไว้หน้าบ้าน เชื่อว่าเกื้อหนุนบารมี ส่วนหลังบ้าน อาจเป็นต้นไม้ดอกให้กลิ่นหอม เช่น ลำดวน ต้นปีบ ดอกแก้วหรือโมก เชื่อว่าช่วยคุ้มครองปกป้องคนในบ้านได้ด้วย
สำหรับทางเดินและรอบตัวบ้าน อาจใช้ไม้พุ่ม เช่น ต้นแก้ว มะลิ หรือใช้ไม้เลื้อย เช่น พวงชมพู บานบุรีเลื้อย เป็นต้น และอาจเสริมด้วยของตกแต่งไทยๆ เช่น แผ่นป้ายไม้ ศาลาทรงไทย หรือสะพานไม้และก้อนหินก็ลงตัวเข้ากันดี
2. สวนหรูหรา แปลกตา สไตล์ยุโรป (Europe Styles Garden)
สวนสไตล์ยุโรป เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสีสันสดใส ผสมผสานกับความเป็นระเบียบ งามตา ความโดดเด่นอันดับแรกของสวนสไตล์ยุโรปก็คือ การใช้ต้นไม้และดอกไม้หลากหลายสีมาผสมผสานเข้าไว้ด้วยกัน แต่ให้ความสำคัญกับความสะอาดสะอ้านอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะปลูกต้นไม้บนดินหรือปลูกในกระถาง ต้องใส่ใจดูแลมากจึงจะทำให้สวนสวยได้ตลอด
หลักการจัดสวนยุโรป คือจัดต้นไม้ให้อยู่กันเป็นหมวดหมู่ ปลูกวางแถวให้ตรงกัน แปลงปลูกจะเป็นสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมก็ได้ อาจใช้คอนกรีตกั้นเป็นขอบ เว้นทางเดิน ตกแต่งด้วยระเบียง สะพานสไตล์หรูหรา ประดับด้วยน้ำพุ โคมไฟ เป็นต้น สวนสไตล์ยุโรปนี้เหมาะกับบ้านที่มีบริเวณกว้างขวาง เพราะต้องใช้พื้นที่มากจึงจะแสดงความเป็นสไตล์ของสวนยุโรปได้ดี
3. สวนสวยหลากสีสัน สไตล์ชนบทอังกฤษ (English Cottage Garden)
สวนสไตล์ชนบทอังกฤษคือสวนที่มีกลิ่นอายของเครื่องใช้เก่าๆ ในอดีต ผสมผสานเข้ากับความน่ารักของเหล่าต้นไม้ดอกไม้ที่มีทั้งสีสันและความหอม โดยไม่นิยมดอกไม้ต้นไม้ขนาดใหญ่ แต่ควรเลือกดอกไม้เล็กๆ แทน เช่น ดอกยิปโซสีขาว ดอกอย่าลืมฉันสีฟ้า (Forget Me Not) หรือประเภทว่านมีดอกสีต่างๆ
สวนสไตล์ชนบทอังกฤษนั้นจะเน้นความเป็นธรรมชาติ เช่น รั้วเป็นไม้ กระบะปลูกเป็นไม้ และของตกแต่งจากธรรมชาติที่สะท้อนความเป็นชนท อาจตกแต่งด้วยของเหลือใช้เช่นกระป๋อง หม้อเก่า กระเบื้องเก่า เป็นต้น เพื่อนำเสนอแนวคิดชีวิตเรียบง่ายของชนบทอังกฤษในสมัยก่อน
สำหรับต้นไม้ที่นิยมนำมาแต่ง มีทั้งไม้เลื้อยหรือไม้เถาสีสดใส เช่น ชมพู ม่วง ฟ้า คราม ที่ปล่อยให้โตขึ้นซุ้มไม้สีขาวเพื่อตัดกันอย่างมีชีวิตชีวา หรือปลูกไม้พุ่มผสมผสานเป็นแนวสำหรับทางเดิน ตกแต่งฟอร์มดอกไม้เล็กน้อยให้พองาม แต่ไม่เน้นความมีระเบียบมากเกินไป
4. สวนสงบ เรียบง่าย สไตล์ญี่ปุ่น (Japanese Styles Garden)
สวนสไตล์ญี่ปุ่น ใช้หลักการจัดสอดคล้องกับแนวคิดของนิกายเซนคือเน้นความเป็นธรรมชาติ สงบ สบายตาและสบายใจ เน้นต้นไม้ตกแต่งมากกว่าการใช้ต้นไม้ใหญ่ สะท้อนความงามของสวนออกจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ หิน อิฐ ทราย ดินหรือใบหญ้า มาเป็นองค์ประกอบร่วมกัน
สวนสไตล์ญี่ปุ่นจะไม่นำของประดิษฐ์มาตกแต่งมากนัก แต่เน้นต้นไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น เช่น ต้นไผ่ ต้นปาล์ม ต้นตาล กก เป็นต้น รวมถึงการใช้น้ำมาประกอบจะเป็นที่นิยมมาก
สวนน้ำที่ปรากฎในสวนญี่ปุ่นจะอิงกับหลักมงคล เช่น การทำสายน้ำให้ไหลไปทางทิศตะวันตก เชื่อว่าจะนำเคราะห์ออกให้พ้นไปจากตัวบ้าน หรือประดับน้ำตก ลำธารที่กลมกลื่นกับธรรมชาติ บางแห่งมีต้นไม้เพียงเล็กน้อยและจัดวางให้มีพื้นที่อาศัยที่เรียบง่ายที่สุด
5. สวนเก๋ อยู่สบาย สไตล์บาหลี (Bali style garden)
สวนบาหลีได้รับความนิยม เพราะจัดง่ายและเข้ากับอากาศเมืองไทยบ้านเรา ต้นไม้และดอกไม้ที่ใช้ประกอบก็หาได้ไม่ยาก เช่น ต้นไทร ต้นกล้วย ดอกชบา เฟิร์นต่างๆ หรือดอกลั่นทมซึ่งให้กลิ่นหอมและความอ่อนหวานในตัวเอง
จุดเด่นของสวนสไตล์บาหลีคือบรรยากาศที่เกี่ยวพันกับความเชื่อและวัฒนธรรม มักตกแต่งสวนด้วยรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์ หินและศิลาแลง หรือใช้ต้นไม้ที่มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรและยามาประกอบเพื่อสะท้อนความสำคัญของวิถีชีวิตธรรมชาติ
สถาปัตยกรรมของบ้านแบบบาหลีเป็นอีกสิ่งที่ใช้ตกแต่งเข้าไปในสวน เช่นการสร้างศาลา ที่พักด้วยดินเผาหรือไม้ไผ่ รวมถึงการทำบ่อน้ำเล็กๆ จากหม้อดินเผา การมีรูปปั้น งานประติมากรรมแบบอินเดีย จะทำให้เอกลักษณ์สวนบาหลีโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
6. สวนซ่อนวัฒนธรรม สไตล์จีน (Chinese style garden)
สวนสไตล์จีนเป็นสวนที่ให้ความสำคัญของวัฒนธรรมมาก โดยทุกอย่างในสวนจะเชื่อมโยงกับเรื่องราวของชาวจีน เช่น การปลูกสมุนไพรที่ใช้เป็นอาหารสูตรโบราณในอดีต การประดับด้วยรูปปั้นที่เกี่ยวข้องกับศาสนา และการใช้น้ำมาประดับประดาในสวนไม่ขาด ตามความเชื่อว่าน้ำจะนำสิ่งดีๆ มาให้
องค์ประกอบของสวนสไตล์จีนที่ขาดไม่ได้คือการใช้หินประกอบ นิยมจัดแต่งทั้งหินขนาดเล็กใหญ่คละกันไป สร้างภูเขาจำลอง บ่อน้ำหรือลำธาร และสะพานโค้งรูปพระจันทร์ครึ่งดวง ส่วนของตกแต่งจะเน้นสถาปัตยกรรมแบบจีน เช่น ศาลา เก๋งจีน เจดีย์หกเหลี่ยม เป็นต้น
ต้นไม้เป็นสิ่งที่ไม่สลักสำคัญมากนัก มีไว้พองาม ไม่เน้นความร่มรื่น ไม่นิยมให้สวนรกครึ้มมากเกินไป ต้นไม้ที่เหมาะได้แก่ ต้นสน ต้นท้อ ต้นหลิวและกอไผ่ เป็นต้น
7. สวนสไตล์รีสอร์ท ร่มรื่น ผ่อนคลาย (Resort style garden)
เมื่อนึกถึงรีสอร์ท มักนึกถึงช่วงเวลาส่วนตัว ที่ผ่อนคลาย สบายใจ พ้นจากภาระหน้าที่การงานทั้งปวง นั่นคือคอนเซปต์ที่สะท้อนถึงสไตล์ของสวนที่สร้างอารมณ์ผ่อนคลายให้มากที่สุด เพื่อให้กายและใจได้พักผ่อน ซึ่งปัจจุบันนิยมจัดสวนรีสอร์ทไว้ในบ้านเพื่อให้รู้สึกเหมือนได้พักผ่อนเสมอๆ เมื่อกลับถึงบ้าน
สวนสไตล์รีสอร์ทจะประกอบด้วยการจัดวางทางเดินไว้รอบสวน เพื่อให้ได้เดินเล่น ออกกำลังกาย หรือผ่อนคลายกับสภาพแวดล้อม ต้นไม้ที่จัดมีทั้งต้นไม้ใหญ่เน้นร่มรื่น ไม้ดอกงามตา และไม้เลื้อยไม้พุ่มที่ทำให้อากาศเย็นสบายมากขึ้น
สวนสไตล์รีสอร์ทนั้นหากจัดวางร่วมกับตัวบ้านหรือตัวที่พักโดยออกแบบให้ที่พักโปร่ง โล่ง มีลมพัดระบายอากาศได้ดี และรับเอาแสงแดดเข้ามาไว้ด้วย ไม่ปล่อยให้รกทึบเกินไป อาจเติมเต็มของตกแต่งเล็กน้อย แต่ไม่มากและไม่หรูหราเกินไป รวมทั้งนิยมใช้ไม้ชายคามาประดับร่วมด้วยเพื่อให้รู้สึกเหมือนเป็นรีสอร์ทจริงๆ
8. สวนย้อนยุค สไตล์วินเทจ (Vintage style garden)
สวนสไตล์วินเทจสร้างความรู้สึกอบอุ่น เหมาะสำหรับผู้รักธรรมชาติ หลงใหลในอดีต มีจุดเด่นคือการผสมผสานข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งสวนที่นิยมในอดีตมาไว้กับต้นไม้ใบหญ้าที่เป็นธรรมชาติ และเปิดโอกาสให้ผู้อาศัยได้สัมผัสกับแสงแดด สายลม ของธรรมชาติให้มากที่สุด
สวนสไตล์วินเทจตกแต่งไม่ยาก เน้นความเรียบง่าย สบายๆ ไม่จำเป็นต้องพิถีพิถันหรือเป็นระเบียบเรียบร้อยมากนัก การปลูกต้นไม้เน้นไม้ดอกที่บานสะพรั่ง ให้ความรู้สึกสดใส เปิดช่องต้นไม้ให้ลมพัดผ่านได้รอบๆ สวน ไม่เน้นสิ่งก่อสร้างเกะกะรกตา และนิยมนำของสะสมจากอดีตมาประกอบ โดยเฉพาะเก้าอี้ไม้แบบเก่าๆ ทั้งรูปทรงโบราณและสภาพที่ไม่เหมือนของใหม่
สวนสไตล์วินเทจดูแลง่าย ตกแต่งให้เป็นพุ่ม สร้างแนวต้นไม้เป็นกลุ่มๆ และปล่อยให้งามตามธรรมชาติ ไม่บังคับฟอร์มของต้นไม้มากไป และเน้นภาพรวมให้สบายๆ ที่สุด