บ้านโมเดิร์นเล็กๆ ส่องบ้านโมเดิร์นคันทรี ในซีรีส์
บ้านโมเดิร์นเล็กๆ ส่องบ้านโมเดิร์นคันทรี ในซีรีส์ บ้านสไตล์โมเดิร์นคันทรี ชีวิตที่น่าอิจฉากึ่งกลางธรรมชาติถ้าผู้ใดกันแน่เป็นคนชอบดูหนังคอละคร ก็จะรู้ว่าสำหรับเพื่อการถ่ายทำนั้นผู้จัดจำต้องมองหาโลเคชันที่สมควร บ้านจัดสรร ซึ่งบางครั้งบางคราวก็ใช้การเซ็ตฉากขึ้นมาเอง แต่ว่าก็มีหลายเคสที่จะต้องเช่าห้องเพื่อใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเพียงแค่นั้น ในต่างแดนก็ใช้แนวทางแบบนี้ด้วยเหมือนกัน บทความนี้พวกเราจะพาไปดูบ้านข้างหลังหนึ่งที่มีชื่อว่า Sherman Residence ตั้งอยู่บนเนินเหนือช่องเขา San Fernando Valley ในลอสแองเจลิส เมืองแคลิฟอร์เนีย ประวัติความเป็นมาอันเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่นี้ ทำให้ภาพของบ้านปรากฏอยู่ในรูปภาพยนตร์รวมทั้งประชาสัมพันธ์หลายเรื่อง ข้างหน้าตาของบ้านจะเป็นเยี่ยงไรนั้นตามไปดูพร้อมเลยครับผม
ข้างหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 San Fernando Valley ถูกแบ่งเป็นแปลงย่อย เพื่อผู้คนเข้ามาจองสร้างพื้นที่พักอาศัยในตอนที่การเคหะรุ่งเรือง แม้กระนั้นตรงนี้มิได้รับการพัฒนามาก่อน ก็เลยยังคงมีต้นไม้และก็พืชหลายประเภท ตัวอย่างเช่น ต้นโอ๊กขนาดใหญ่ ต้นไซติดอยู่มอร์ขนาดใหญ่ และก็ยังมีพืชที่ใช้ทานได้ อาทิเช่น ต้นส้ม ต้นมะเดื่อ และก็อะโวคาโด แล้วก็ต้นปาล์มแล้วก็ไม้อวบน้ำ เมื่อสิ่งแวดล้อมค่อนข้างจะบริบูรณ์นักออกแบบก็เลยมีแนวความคิดว่า ควรจะสร้างฐานะตึกให้อ่อนน้อมต่อสภาพแวดล้อม บ้านสวยๆหรูๆ
โดยการวางแบบแปลนให้สามารถรักษาแนวต้นไม้เดิมเอาไว้ให้เยอะที่สุด และก็เปิดมุมมองบ้านรับผิดแทนวิสัยทัศน์ได้รอบด้าน
นักออกแบบสร้างตึกที่มีคอนกรีตดิบๆแบ่งเป็นกล่องๆแล้วเชื่อมต่อให้เดินทางถึงกันได้ด้วยฝาผนังนิดหน่อยที่เป็นกระจกใส ข้างนอกข้างในโชว์องค์ประกอบไม้มองอบอุ่นเป็นธรรมชาติ โดยสร้างคุณลักษณะเด่นกับเพดานไม้คานเปิดที่ยื่นออกมาถึง 3.6 เมตร ภาพรวมของบ้านก็เลยราวกับศาลาโปร่งๆทรงเกือกม้า หันเข้าพบสระว่ายน้ำรวมทั้งพื้นที่ที่โล่งแจ้งกึ่งกลางอีกทั้งสามด้าน ยิ่งกว่านั้นยังมีฝาผนังกระจกใสในจุดอื่นๆของบ้านช่วยเพิ่มมุมมองของภูมิทัศน์ที่ไม่ธรรมดาให้กับบ้านทั้งยังข้างหลังบ้านจัดสรร
บ้านมีชุดศาลาคอนกรีตโชว์ร่องรอยต้นฉบับโดยไม่ฉาบเรียบ มีฝาผนังกรอบไม้แล้วก็กระจกรายล้อม หน้าต่างและก็ประตูพวกนี้นอกเหนือจากที่จะให้แสงสว่างธรรมชาติพอเพียงทั่วอีกทั้งบ้านแล้ว ยังปฏิบัติหน้าที่ที่เชื่อมต่อพื้นที่มึงลเลอรีด้านหน้าที่กั้นระหว่างตึก ซึ่งเป็นตัวระบุลานกลางบ้านด้วยกันด้วย บนเพดานจะมองเห็นแนวโครงคานไม้วิ่งจากพื้นที่ข้างในไปยังชายคาที่ยื่นออกไปข้างนอกราวกับรูปร่างพัดที่กำลังแผ่ออก ทำให้มุมนี้เปลี่ยนเป็นหนึ่งจุดโฟกัสสายตาของบ้านข้างในตกแต่งบ้านด้วยกลิ่นของบ้านฟาร์มที่มองอบอุ่นรวมทั้งเข้ากันได้กับวิถีชีวิตแบบกสิกรบริเวณทั้งยังเตาผิงที่มีเปลวให้ความอบอุ่น ของตกแต่งรูปสัตว์ ชั้นรวมทั้งตู้ไม้สีแก่
แต่ว่าก็มีความโมเดิร์นแทรกซ่อนเร้นอยู่กับเส้นขวานผ่าซาก ฟังก์ชันรวมทั้งส่วนประกอบของช่องแสงสว่างที่เป็นแถวคิดของคนยุคสมัยใหม่ตึกกระจกที่กั้นระหว่างพื้นที่ใช้สอย ช่วยทำให้มีการเวียนในบ้านทั้งยังข้างหลังเชื่อมต่อกัน แล้วยังดึงภูมิทัศน์แล้วก็นำธรรมชาติมาเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของบ้านอย่างแจ่มแจ้ง จากแต่ละห้องผู้อาศัยจะมองเห็นภูมิทัศน์อันสมบูรณ์บริบูรณ์รวมทั้งมากมายในด้านมุมที่ต่างๆกันแม้กระทั้งในห้องน้ำ ก็ไม่พลาดที่จะจัดตั้งฝาผนังกรอบไม้ขลุกระจกเอาไว้ด้วยเหมือนกัน เวลาที่นอนนอนแช่น้ำอุ่นสบายๆไปซ่อนก็ปลดปล่อยสายตาทะลุจากฝาผนังกระจกออกไปดูดซับภูมิทัศน์ด้านนอกได้แบบไม่มีอะไรมากั้น
ในบ้านที่อยากแสงสว่างออกจะมากมาย จะใช้อุปกรณ์กระจกเป็นตัวช่วยสำหรับในการเปิดรับแสงสว่างธรรมชาติไปสู่ด้านใน แต่ว่าการใช้แรงงานกระจกก็มีสิ่งที่จำเป็นต้องพิจารณาถึง อาทิเช่น ขนาดพื้นที่ แนวทาง รวมทั้งความเป็นส่วนตัว เนื่องจากว่ากระจกเป็นอุปกรณ์ที่ปลดปล่อยให้แสงสว่างผ่านได้มาก ถ้าหากจัดตั้งเป็นรอบๆกว้างในแนวทางที่แสงสว่างตกกระทบช้านานในตอนกลางวันอย่างทิศตะวันตกจะก่อให้บ้านร้อนกระทั่งอยู่ป่วยหนักได้ นอกเหนือจากนั้นความใสสะอาดยังลดความเป็นส่วนตัวของพื้นที่ใช้งานในบ้านลง ก็เลยต้องกำหนดมุมมองพร้อมการคุ้มครองสายตาผู้คนด้านนอกให้ดีก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจ
บ้านโมเดิร์น ตั้งอกตั้งใจเปิดรับลมทะเลและก็ธรรมชาติ
ถ้าเกิดรอบตัวบ้านพวกเราเต็มไปด้วยต้นไม้ ไอสมุทร ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา การจะปิดตัวหลบลี้จากธรรมชาติที่เป็นจุดเด่นหาได้ยากก็โชคร้าย ลองเปิดบางจุดเพื่อชีวิตได้รับมุมมอง ประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบใหม่ๆกันดูบ้าง ดังเช่นว่าบ้านข้างหลังนี้ในประเทศสเปน ในท่ามกลางวางแบบที่เรียบง่าย แม้กระนั้นร่างกายก็ได้ปะทะสายลม แดด ความมีชีวิตชีวาจากน้ำได้เต็มกำลัง
RiM House บ้านขนาด 228 ตารางเมตร ตั้งอยู่ห่างจากสมุทรบนริมฝั่งด้านเหนือของเกาะมายอร์ก้า ประเทศสเปนเพียงแต่ไม่กี่เมตร นอกเหนือจากที่จะแจ่มใสด้วยไอสมุทรแล้ว ที่ดินยังตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าที่มีต้นสน ต้นโอ๊ก แล้วก็ต้นมะกอกป่าอยู่รายล้อม ไอเดียของดีไซน์เนอร์โครงงานนี้ก็เลยอยากบ้านที่พร้อมรับวิสัยทัศน์บริเวณและก็บูรณาการตัวบ้านให้ปรับนิสัยกับสิ่งแวดล้อมข้างในป่าได้อย่างดีเยี่ยมแนวความคิดเป็นการปรับตึกให้กับสภาพแวดล้อม โดยทรงไว้ซึ่งลักษณะสถาปัตยกรรมแบบเริ่มแรกที่เป็นราวกับกล่องยาวๆตกแต่งสิ่งของที่หาได้จากพื้นที่ ใส่ช่องเปิดข้างหน้าแล้วก็ภายในให้ลมผ่านตึกแบบขัดเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับเพื่อการไหลเวียนของอากาศในบ้าน รอบบ้านจัดตั้งระบบระแนงแนวดิ่งช่วยกรองแสงสว่างในตอนที่แดดจัด แล้วก็จัดสวนปลูกต้นไม้ให้ช่วยเพิ่มร่มเงา เพิ่มความมีชีวิตชีวา ทั้งยังมองมีความเกี่ยวเนื่องกับแนวป่าบริเวณด้วยบ้านจัดสรร
ภาพตัดข้างจะมองเห็นผู้กระทำระจายตัวของบ้านมีลักษณะการจัดวางเรียงกันของขนาด 2 กล่อง มีพื้นที่เว้าเข้าไปกึ่งกลางแบ่งตึกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นลูกบาศก์ที่ปกคลุมไปด้วยหิน marés (calcarenite) ฝาผนังเปิดกว้าง ซึ่งทำให้พื้นที่เข้าถึงของระเบียงที่โล่งแจ้งมีอิสรภาพ พื้นที่สูงตกแต่งด้วยเครื่องเรือนทรงตรงแล้วก็เรียบง่าย ดีไซน์โดยนึกถึงรูปร่างของห้อง พื้นที่ข้างในโล่งเตียนแล้วก็กว้างใหญ่มากมายทำให้มีความรู้สึกมีชีวิตชีวา ด้านในเป็นส่วนใช้งานรวมห้องครัว วิลล่าภูเก็ตโต๊ะกินข้าว พื้นที่นั่งพักผ่อน ส่วนตึกข้างหลัง
จะเป็นหอพักผ่อนห้องนอพื้นที่ของเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกของบ้านมองออกไปมองเห็นสระว่ายน้ำแล้วก็ครัวที่โล่งแจ้ง กลุ่มวางแบบตกแต่งให้มีความผ่อนคลายน่าอยู่ โดยเลือกใช้ผ้าม่านทอจากธรรมชาติ ดังเช่นว่า ผ้าลินิน ตะเกียงตกแต่งเป็นเครื่องหัตถกรรม เก้าอี้ โต๊ะ เป็นงานไม้สีอ่อนๆเพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่นให้กับแต่ละห้อง และก็ให้อารมณ์โฮมมี่เป็นบ้านของครอบครัวการแบ่งฟังก์ชันในบ้านยุคสมัยใหม่ในเมืองนอก จะมีการแบ่งเป็นฟังก์ชันการใช้แรงงานส่วนกลางกับส่วนตัว โดยจะรวมเอาพื้นที่ที่ใช้งานพร้อมได้ เช่น ครัว ห้องทานอาหาร โครงการบ้านภูเก็ตแล้วก็ห้องรับแขกวางเรียงกันเอาไว้ในห้องโถงขนาดใหญ่โดยไม่มีฝาผนังแบ่งกันเป็นห้องๆแล้วแยกโซนห้องนอนหรือห้อง family ที่อยากความเป็นส่วนตัวแยกออกมา บางทีอาจจะแยกไว้ข้างๆ ข้างหลัง หรือข้างบน ซึ่งกรรมวิธีการนี้ทำให้คนภายในบ้านออกมาทำกิจกรรมด้วยกันมากเพิ่มขึ้น เมื่อถึงเวลาพักก็สงบไร้คนคึกคกก่อกวน