บ้านสไตล์มินิมอล-นอร์ดิก เล็กที่ดูไม่เบื่อ
บ้านสไตล์มินิมอล-นอร์ดิก เล็กที่ดูไม่เบื่อ เสน่ห์ของความเฉียบคมที่หลายคนหลงรักในบ้านสไตล์นอร์ดิก ทำให้หลาย ๆ คนยังคงมองหาตัวอย่างบ้านสไตล์นี้ เพื่อเก็บเอาไว้สร้างบ้านในฝัน ไม่เฉพาะที่ประเทศไทยเท่านั้น ที่ออสเตรเลียก็มีคนรสนิยมเดียวกันอยู่ไม่น้อย อย่างเช่นบ้านหลังนี้ที่อยู่ในท่ามกลางชุมชนที่มีบ้านอิฐบ้านอิฐและบ้านย้อนยุคในเขตชานเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของแคนเบอร์รา คุณคงไม่คิดว่าจะเจอแนวหลังคาทรงจั่วสูงของโรงนาสแกนดิเนเวียที่ดูโมเดิร์นแถวนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าถ้าใครผ่านถนนเส้นนี้มาจะต้องรู้สึกสะดุดตากับสิ่งที่จะพบแน่นอน townhouse
บ้าน Ainslie Modern Scandi ตั้งอยู่ใน Ainslie ซึ่งเป็นย่านชานเมืองชั้นในที่มีชีวิตชีวาของแคนเบอร์รา เมืองหลวงของเครือรัฐออสเตรเลีย เจ้าของบ้านมีความรู้สึกชื่นชอบการออกแบบของสแกนดิเนเวีย และใฝ่ฝันว่าจะสร้างบ้านสไตล์นี้สักหลัง จึงสรุปออกมาเป็นบ้านที่มีองค์ประกอบของอาคารหลังคาจั่วสูงเรียบง่ายไม่มีชายคาดูเหมือนโรงนา เส้นสายคมชัดทันสมัย วัสดุที่ใช้นอกจากจะมีหลังคาเมทัลชีท เหล็ก กระจกที่ให้ความโมเดิร์นยังมีส่วนที่ห่อหุ้มด้วยไม้ เพื่อตอบสนองต่อบริบทชานเมือง Ainslie อย่างเหมาะสม
บ้านประกอบด้วยชุดของบ้านที่หันหน้าไปแนวทิศเหนือ-ใต้จำนวนสี่ชุด ซึ่งเชื่อมต่อกันผ่านช่องว่างตรงกลางและทางเดิน เพื่อให้ทุกอาคารได้รับแสงเท่า ๆ กัน แต่ละอาคารจะมีรูปทรงเหมือนกันคือหลังคาจั่วแหลมสูงไร้ชายคา ผนังโปร่งๆ เหมือน “ศาลา” อาคารด้านซ้ายตกแต่งรูปด้านหน้าทำช่องหน้าต่างในห้องนอนเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมประกอบกับสามเหลี่ยมด้านบนล้อ บ้านจัดสรร ไปกับรูปทรงของบ้าน เหมือนมีบ้านเล็กๆ ซ้อนอยู่ในบ้านใหญ่ดูน่ารักสะดุดตา เมื่อตกแต่งไฟที่กรอบบ้านยามค่ำยิ่งดูสวยขึ้นไปอีก
ด้านในของช่องหน้าต่างรูปบ้านทำเป็นเบย์วินโดว์นั่งเล่นที่กรอบหน้าต่างได้ เมื่อยามตื่นนอนมาตอนเข้าก็สามารถรับแสงและวิวสนามหญ้าและแนวต้นไม้ภายนอกได้อย่างใกล้ชิดทันที ช่องแสงที่เป็นสามเหลี่ยมด้านบนทำให้มุมมองของห้องนอนเปิดสูงขึ้นไปอีกจนเห็นถึงก้อนเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเอกลักษณ์สไตล์นอร์ดิกนอกจากความมินิมอล เรียบง่าย ไม่รกหรือดูยุ่งเหยิง เน้นการใช้งานได้จริงแล้ว ยังอยู่ที่การเลือกใช้สีโทนธรรมชาติและการเปิดรับแสงที่ค่อนข้างมาก เนื่องจากประเทศแถบสแกนดิเนเวียนมีความหนาวเย็นมาก ได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์น้อย ในสมัยก่อนจึงก่อปิดทึบใส่ช่องแสงน้อย ๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิภายใน ต่างจากสมัยนี้ที่เปลี่ยนใส่ผนังกระจกในพื้นที่ค่อนข้างกว้าง เพื่อดึงแสงธรรมชาติเข้ามาสู่อาคารได้มากขึ้น เพิ่มความอบอุ่นผ่อนคลาย และเติมชีวิตชีวาให้กับตัวบ้านไม่มืดและทึบ บ้านสไตล์นอร์ดิก
3 สิ่งที่ต้องระวังก่อนสร้างบ้าน Modern Barn
ก่อนจะนำบ้านสไตล์ใด ๆ มาประยุกต์ใช้ร่วมกับบ้านของเรา อยากให้ทราบที่มาที่ไป ต้นกำเนิด เพื่อเข้าใจบริบทในงานออกแบบ อย่างบ้านสไตล์ Nordic หรือ Modern Barn มีต้นกำเนิดมาจากสถาปัตยกรรมในยุโรป ซึ่งเป็นโซนเมืองหนาวผู้อยู่อาศัยจึงต้องการความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ การออกแบบบ้านจึงเน้นเปิดช่องแสง เพื่อให้สามารถนำแสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามาสู่อาคารได้ และด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากโรงนาที่ไม่มีกันสาด ดังนั้นการยกรูปแบบของนอร์ดิกมาใช้เลย โดยไม่ปรับประยุกต์ให้เข้ากับบริบทของเมืองไทย แน่นอนว่าจะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้ ซึ่งสิ่งที่ควรระวังสำหรับบ้านสไตล์ Modern Barn มีอยู่ 3 ประการหลักด้วยกัน ดังนี้ บ้านจัดสรร
บ้านนอร์ดิก กับปัญหาความร้อน
“ร้อนแน่…บ้านแบบนี้” นี่คือความคิดเห็นที่เรามักพบได้เสมอเมื่อพูดถึงบ้านสไตล์นอร์ดิก ซึ่งต้องยอมรับว่าจริงบางส่วน เพราะด้วยหลังคาทรงจั่วแบบไร้ชายคา และการใช้กระจกเป็นองค์ประกอบของบ้านค่อนข้างมาก ย่อมส่งผลให้บ้านได้รับความร้อนเข้าสู่ภายในได้มากขึ้น แต่หากวางแผนงานให้ดีตั้งแต่ต้น ปัญหานี้ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการออกแบบผังแปลนบ้านตั้งแต่ต้น เช่น การเลือกทิศทางห้องแต่ละห้องให้เหมาะกับทิศทางแสงแดด ห้องที่ไม่เน้นช่องเปิดมากให้ไว้ฝั่งทิศใต้และทิศตะวันตก ส่วนห้องที่มีช่องกระจกบานใหญ่เลือกไว้ในทางทิศเหนือ กรณีบ้านที่เลี่ยงทิศเปิดไม่ได้เพราะบังคับด้วยวิวหรือมุมหน้าบ้าน ให้ออกแบบอาคารลักษณะเว้าเข้าไปเพื่อให้จุดเว้าเป็นชายคาโดยอัตโนมัติ แบบบ้านแฝด
นอกจากการออกแบบแล้ว วัสดุก็มีส่วนสำคัญมาก อย่างการเลือกทำผนังอิฐ 2 ชั้น, เลือกวัสดุมุงหลังคาที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน พร้อมติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อนและฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา โดยเฉพาะจุดที่ต้องการทำฝ้าสูงโปร่งตามแนวจั่วจะต้องเพิ่มคุณสมบัติกันความร้อนมากเป็นพิเศษ หรือหากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการหมุนเวียนอากาศด้วยกลไลธรรมชาติ สามารถใช้ระบบ Active Airflow ที่ติดตั้งบนหลังคาทรงจั่วได้ โดยก่อนติดตั้งจะมีวิศวกรมาตรวจสอบให้ก่อน และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือต้นไม้ ช่วยให้บ้านสไตล์โรงนาดูมีชีวิตชีวา ลดอุณหภูมิร้อนทางสายตาได้เป็นอย่างดี
บ้านนอร์ดิก ฝนสาด ผนังชื้น
เสน่ห์ของ Modern Barn คือเส้นสายของหลังคาแบบไร้ชายคา หากใส่กันสาดเข้าไปอาจทำให้เสน่ห์ของบ้านสไตล์นี้ลดลงไปได้ เจ้าของบ้านจึงต้องทำความเข้าใจเพื่อออกแบบรับมือกับความชื้นบนผนังและฝนสาดให้ได้ตั้งแต่ต้น เช่น จุดพักผ่อนสำคัญอย่างห้องนั่งเล่น ให้ออกแบบด้วยวิธีการร่นผนังเว้าเข้าไป เพื่อให้หลังคาทำหน้าที่เป็นกันสาดไปในตัว ส่วนปัญหาฝนสาดบริเวณหน้าต่างฝั่งที่ไม่มีชายคา จำเป็นต้องเลือกบานหน้าต่างขอบอลูมิเนียมหรือไวนิล จะช่วยป้องกันน้ำซึมได้ดีกว่าวงกบไม้ ส่วนปัญหาผนังชื้นสามารถป้องกันได้ด้วยการทาสีที่มีคุณสมบัติป้องกันความชื้น ป้องกันเชื้อรา กรณีต้องการทำเฉลียงพักผ่อน ให้ออกแบบเฉลียงยื่นออกจากตัวบ้าน โดยเลือกใช้หลังคากล่องแบน จะช่วยให้ภาพรวมของบ้านดูเข้ากัน การมีเฉลียงจึงช่วยกันฝนสาดและกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้
หลังคารั่วซึม
แม้ว่าบ้าน Modern Barn จะมีจั่วสูงแต่ก็อาจเกิดปัญหารั่วซึมบนหลังคาได้หากขาดการมุงหลังคาที่ดี การรับมือกับปัญหานี้สามารถทำได้ด้วยการการออกแบบความลาดเอียงของหลังคาให้เหมาะสมกับรุ่นวัสดุหลังคานั้น ๆ เช่น หลังคากระเบื้องแผ่นเรียบ SCG รองรับองศาความชันที่ 25 องศา แต่หากต้องการให้การระบายน้ำทำได้ดีขึ้น ควรออกแบบให้หลังคาชันมากขึ้นที่ 30-35 องศา จะช่วยลดปัญหารั่วซึมและปัญหาน้ำไหลย้อน
อีกจุดที่มักมีปัญหากับหลังคาจั่วคือ ปั้นลม ทำหน้าที่กันลมไม่ให้ปะทะกับกระเบื้องหลังคาโดยตรง และช่วยกันน้ำฝนไม่ให้เข้าอาคาร วัสดุที่นิยมนำมาใช้เป็นปั้นลม มีทั้งไม้จริง ไม้สังเคราะห์ ปั้นลม คสล. หรือที่นิยมมากในยุคปัจจุบันและดูเข้ากับบ้านสไตล์นอร์ดิก คือ การนำไม้ C Channel มาประยุกต์ใช้ ทำให้ดูเสมือนบ้านโครงสร้างเหล็ก