สี ทั้ง 5 ที่มาแห่งความ พร้อมทำให้บ้าน และ คนข้างในสดชื่น

สี คำนี้ แน่นอนอยู่แล้วว่า สี มีอิทธิพลต่ออารมณ์ และ ยังสะท้อนตัวตนของผู้คน เราจึงมักเดาอารมณ์ของเพื่อนร่วมงาน หรือเจ้านายจากสีของเสื้อผ้า หากวันไหนใส่เสื้อสีสด คงเป็นวันที่มีความสุข หรือวันไหนใส่เสื้อสีทึบ ก็อาจเป็นวันที่เขาไม่สบอารมณ์นัก แต่สำหรับการตกแต่งบ้านแล้ว เราคงไม่สามารถเปลี่ยนสีได้บ่อยนัก

แล้วเราควรเลือกใช้สีอย่างไรเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและบรรยากาศสดใสให้บ้านแสนรักในทุกฤดูกาลของชีวิต

Yellow

สีเหลือง เป็นอีกหนึ่งสี ที่มีความโดดเด่น  หากคุณอยากสร้างบรรยากาศในบ้านให้รู้สึก เบิกบานใจ สดใส คงไม่มีสีไหน ที่จะดีไปกว่า สีเหลือง  สีเหลืองคือ สีของแสงพระอาทิตย์ ที่ส่องสว่างแสดงถึงความสุข ทั้งยังหมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง และเป็นกันเอง

ในทางวิทยาศาสตร์ อธิบายได้ว่า สีเหลืองมีผลต่อ การหลั่งสารเซโรโทนิน (serotonin) สารสื่อประสาท ในระบบทางเดินอาหารของคนเรา ซึ่งมีบทบาทในการ ควบคุมอารมณ์ และ ความอยากอาหาร

ไม่ว่าจะเป็น เหลืองครีม เหลืองหม่น หรือเหลืองแม่สี สีเหลืองยังมีพลังกระตุ้น ความคิดสร้างสรรค์ ให้ความรู้สึก กระปรี้กระเปร่า   สำหรับสีเหลือง เราจะไม่นิยมทาสีเหลืองทั้งหมดของ การตกแต่งบ้าน เพียงแต่จะเน้น เป็นบางมุม บางห้อง เช่น ห้องทานขาว ห้องนอน หรือแม้กระทั่ง ห้องน้ำ

สี

การจับคู่สีของสีเหลือง ก็ทำให้ดู สมัยใหม่ได้  โดยการนำ สีกลางๆโทนเย็น มาคู่กับ สีโทนร้อน เช่น สีเหลือง กับสีเทา นั้นจะช่วยทำให้พื้นที่บริเวณบ้านนั้น สว่างสดใสขึ้นทันที เลือกสีเทาเข้ม สีเทาดีบุก กับสีเหลืองอ่อน เพื่อสร้างบรรยากาศตกแต่ง ที่ดูทันสมัย

จับคู่สีเทาอ่อน กับสีเหลืองมัสตาร์ดเข้มข้น ก็ช่วย มอบบรรยากาศ ที่ดูอบอุ่น ได้เป็นอย่างดี หรือเบสิคสุดๆเลย ก็เป็นสีเหลืองกับสีขาว ก็ทำให้ห้องที่ตกแต่งโดยสีเหลือง มีบรรยากาศที่ดีได้มากขึ้น home

Tip: สีเทาเข้าได้ดีกับสีเหลือง ลองใช้สีเทาเป็นฉากหลัง และ ให้องค์ประกอบสีเหลืองเป็นจุดเด่น สีเทาจะช่วยขับเน้น ให้สีเหลืองดูทรงพลังมากยิ่งขึ้น

สี

Green

สีเขียว เป็นสีที่ เปรียบเหมือน ตัวแทนของธรรมชาติ ที่สื่อถึง ความต้องการของมนุษย์ ที่อยากใกล้ชิดกับธรรมชาติให้มากขึ้น สวนทางกับ โลกเทคโนโลยี ที่วุ่นวายจนตามกันไม่ทัน  สีเขียวสะท้อนถึง ความเบิกบานและความคิดเชิงบวก ที่ผู้คน พยายามหล่อหลอมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ในชีวิตประจำวัน

สีเขียว

ความเขียว เป็นสัญลักษณ์ ที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ จึงเป็นสีที่แสดงถึงสมาธิ และ ความผ่อนคลาย  การใช้สีเขียวในบ้าน จึงเป็นการขับเคลื่อนชีวิตผู้คน ให้เข้ากับธรรมชาติ และ เชื่อมโยงผู้อาศัย กับองค์ประกอบนอกหน้าต่าง

สำหรับสีเขียวแล้ว การจับคู่สี มีได้หลากหลาย เช่น เขียวโอลีฟจับคู่กับน้ำตาล ก็ชวนให้ห้อง ดูอบอุ่นและคลาสสิค ในเวลาเดียวกัน หรือจะสร้างสีสันแบบสนุกๆ ก็เป็นสีเขียวใบเฟิร์นกับฟ้ามหาสมุทร เหมือนได้พักผ่อนอยู่ริมชายหาด   และจบด้วยด้วยสุดท้าย อย่างสีเขียวซีวีทกับขาว ก็ทำให้ห้อง ดูชวนหลงไหล ให้บ้านน่าอยู่อาศัยมากขึ้น

เราสามารถนำสีเขียวมาตกแต่ง ห้องต่าง ๆ ในบ้านได้ทุกห้อง โดยในส่วนของห้องนอนก็ถือว่า เป็นการตกแต่งบ้านที่ดี เพราะสีเขียว ช่วยให้ทุกอย่างดูสมดุล อบอุ่น และผ่อนคลาย จนทำให้เรานอนหลับอย่างมีความสุข และ ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น

Tip: การใช้สีเขียวให้ห้องดูอบอุ่นและผ่อนคลาย ควรใช้พื้นและเฟอร์นิเจอร์สีไม้ เพื่อสร้างความกลมกลืนของสีได้อย่างเป็นธรรมชาติ

สี

Blue

ความสงบ นุ่มลึกเป็นความรู้สึกแรกเมื่อได้เห็น สีฟ้าหรือน้ำเงินเป็นสีที่ สื่อถึงการมองโลกในแง่ดี  สีฟ้าใสเหมาะกับการพักผ่อน เช่น ห้องนอน และ ห้องน้ำ เพราะเป็นสีโทนเย็น  ส่วนสีน้ำเงินเข้มก็เป็นอีกสีที่ ได้รับความนิยมสร้างความ สงบนิ่งแต่เป็นสีมีความอึมครึม ถ้ามีมากเกินไป

สี

โทนสีนี้ อาจจะเล่นงานกับอารมณ์ ความรู้สึกให้หม่นลง ไม่สดใสได้เช่นกัน ดังนั้น จึงมีทางแก้มาฝาก  ถ้าหากคุณตัดสินใจ ที่จะเลือกสีน้ำเงินเข้ม เป็นโทนสีหลัก ของห้องแล้ว สิ่งที่ไม่ควรลืมเลย คือการเติมสีโทนอ่อน หรือโทนสว่างลงไป เพื่อเบรกความทึบของสี  อย่างเช่น การใช้เตียงนอนสีขาว ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักของห้อง

Tip: การใช้สีโทนอุ่น อย่างสีเหลืองสด หรือเหลืองมัสตาร์ดร่วมกับสีน้ำเงินเข็ม จะช่วยให้พื้นที่นั้นไม่ดูนิ่งจนเกินไป หากใช้สีน้ำเงินเข้มกับผนังแล้ว ลองเลือกเฟอร์นิเจอร์ ภาพวาด หรือของตกแต่งที่มีสีโทนอุ่น มาจัดวางรวมกัน เป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้กับพื้นที่บ้านได้มากเลยทีเดียว

สี

Pink

สีชมพู ถือว่าเป็นสีโปรด ของผู้หญิงหลายๆคน เพราะสีชมพูเปรียบเสมือน เป็นตัวแทนของความรัก ความอ่อนโยน และ ความเอื้ออารี ในขณะเดียวกัน ยังหมายถึง ความอบอุ่น และ ความเฉียบแหลม  จริงๆแล้ว การตกแต่งบ้านในโทนสีชมพู สามารถตกแต่งได้ทั้งห้องนอนหรือนั่งเล่น 

ชมพู

ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป สีชมพูจึง ไม่ได้ถูกจำกัดการใช้ อยู่แค่ผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายเอง ก็สามารถนำไปตกแต่งบ้าน เพื่อเติมความสดใสได้เหมือนกัน

สำหรับการเลือกใช้สีชมพู สามารถใช้ได้กับสีอ่อนหลายเฉดสี ไม่ว่าจะเป็น ชมพู-ฟ้า, ชมพูพาสเทล กับสีขาว ที่ช่วยปรับให้ห้องดูสดใส  หรือถ้าเป็นผู้ชาย ที่หลงใหลในสีชมพู ก็สามารถตกแต่งได้ด้วย สีชมพูพาสเทล กับสีเทา เพื่อสร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา แต่ไม่ดูหวานจนเกินไป

Tip: สีชมพูทำให้พื้นที่ดูเล็กลง จึงเหมาะกับห้อง ที่มีหน้าต่างบานใหญ่หรือห้องที่มีแสงมาก

เฉดสีที่ใช้ควบคู่

Red

ความรู้สึกมีพลัง มีความกระตือรือร้น  การใช้สีแดงสด หรือแดงเชอรี่ มาตกแต่งบ้านจึงช่วยให้บ้านดูสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้น ไม่จืดชืดน่าเบื่ออย่างที่เคย

แต่ทว่า ในขณะเดียวกัน หากมองในทางลบก็หมายถึง อันตราย ความก้าวร้าว ฉะนั้น การหยิบสีแดงมาใช้ เราควรเลือกมา ในปริมาณที่พอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป

สี

สีแดงเหมาะกับการตกแต่งมุมห้องทำงาน มันจะช่วยดึงพลัง ในการทำงานได้เป็นอย่างดี แต่ในที่นี้ แนะนำเป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ที่ควรจะใช้สีแดง แต่สำหรับสี ที่จะเลือกใช้ถ้าใครไม่ชอบความสดของสีแดงเชอรี่มากจนเกินไป

ก็เลือกเป็นเฉดสีพวก แดงเลือดหมู หรือแดงองุ่นก็ช่วยเสริมพลัง และ สร้างความหรูหราในเวลาเดียวกันได้เป็นอย่างดี ของที่ควรนำมาตกแต่งก็จะมี อาทิ เก้าอี้ โต๊ะ หรือจะเป็นชั้นวาง ก็จะทำให้ห้องดูไม่หนักเกินไป  ส่วนผนังบริเวณอื่น เบรกด้วยสีขาวเพื่อสร้างความสมดุลและปรับบรรยากาศของบ้านให้ดูน่าอยู่ยิ่งขึ้น

Tip: สีแดงโดดๆ ให้ความรู้สึกร้อนแรงเกินไป การใช้แพทเทิร์นลายทางหรือลายจุด จะช่วยให้สีแดงดูนุ่มนวลขึ้นแต่ไม่ สูญเสียชีวิตชีวาไป

สีไม่มีหลักเกณฑ์ใดใด

สำหรับ ความหมายของสี ที่ใช้เป็นแนวทางการออกแบบ เราสามารถประยุกต์ใช้ได้ ไม่ระบุเฉพาะเจาะจงว่าสีอะไรควรใช้ในสถานการณ์ไหน หรือกับสินค้าใด เพราะการเลือกใช้สีนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย แต่ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงความรู้ที่เกี่ยวกับความหมายของแต่ละสี

ในมุมของการสร้างความหมายของสีนั้น จำเป็นต้องเชื่อมโยงกับสิ่งที่มนุษย์ได้สัมผัสทางสายตา กับความรู้สึกทั้งในระดับจิตวิทยา และ จิตใต้สำนึกตามธรรมชาติ สำหรับในงานออกแบบสี ไม่ได้มีหน้าที่แค่เฉพาะในเชิงการทำหน้าที่เท่านั้น แต่ ต้องรวมถึงหน้าที่ในเชิงด้านอารมณ์ความรู้สึกพร้อมกันทั้งสองแบบ

ใครอยากได้ไอเดียที่ดีๆนอกเหนือจากนี้ แวะมาดูกันได้เลย ห้องนอนโทนสีเทา