บ้านไม้โมเดิร์นเล็กๆ บ้านระบบโมดูลาร์
บ้านไม้โมเดิร์นเล็กๆ บ้านระบบโมดูลาร์ ในช่วงเวลาเร่งรีบการได้ทานอาหารกึ่งสำเร็จรูปก็ช่วยได้มาก การสร้างบ้านยุคนี้ก็มีทางเลือกในการก่อสร้างให้เร็วขึ้นสำหรับคนที่ต้องการบ้านแบบเร่งด่วน หรือพื้นที่มีข้อจำกัดในการก่อสร้างไม่สามารถใช้วิธีการปกติได้ เป็นบ้านสำเร็จรูป หรือแบบกึ่งสำเร็จรูปที่เราเรียกว่าระบบโมดูลาร์ (Modular House) ซึ่งเป็นวิธีการทำชิ้นส่วนแยกเป็นส่วน ๆ เสร็จมาจากโรงงานนำไปประกอบหน้าไซต์ บ้านหลังนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโปรเจ็คโมดูลาร์ยูนิต (MU50) โครงสร้างบ้านขนาดเล็ก ออกแบบมาให้นำไปปรับใช้กับไซต์ต่าง ๆ ได้หลากหลาย ด้วยความเรียบง่าย เบา phuket village ความยืดหยุ่น สามารถขนส่งและประกอบได้สะดวกแม้ในสภาพแวดล้อมที่เข้าถึงยาก
มั่นใจว่าสร้างได้ทุกที่ตั้งแต่เนินเขาในเทือกเขาแอลป์ไปจนถึง rooftop ในนิวยอร์กบ้านหลังนี้ใช้ระบบโมดูล่าร์ทำชิ้นส่วนสำเร็จจากโรงงาน แล้วนำมาประกอบหน้างาน ตัวบ้านทำจากโครงระแนงไม้ลาร์ชตีบนโครงเหล็กเป็นแผง บ้านจัดสรร ทำให้ติดตั้งได้ง่ายบนไซต์งานช่วยลดเวลาในการทำงานและค่าแรงได้มาก รายละเอียดของส่วนหลังคาหน้าจั่วสูงชันได้รับการพัฒนาสำหรับวัสดุก่อสร้างสามชนิด ได้แก่ ไม้ อลูมิเนียม และทองแดง โดยวัสดุทั้งหมดคัดเลือกที่เป็นฉนวนกันความร้อนและกันน้ำ ให้การควบคุมสภาพอากาศตามธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและการลดความร้อนที่เพิ่มขึ้นได้ดี หลังคานี้ยังเป็นที่ตั้งของโซลาร์เซลล์ ทำให้บ้านน้อยหลังนี้ดูไม่ธรรมดา
บ้านชั้นเดียวหลังคาเมทัลชีท
สามารถทำองศาจั่วได้สูงตามที่ต้องการได้ง่าย ความน่าสนุกอยู่ที่ผนังแผงไม้ระแนงมีกลไกยกขึ้นให้บ้านเปิดรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ในเวลาที่ต้องการ หรือจะปิดเป็นส่วนตัวได้ยามค่ำคืน นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ป้องกันแสงให้ชาน ระเบียง ที่ยื่นออกมารอบ ๆ ตัวบ้านด้วย วิธีนี้ทำให้บ้านมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้นอย่างน่าสนใจ
สถาปนิกยกบ้านให้สูงขึ้นจากพื้นดินประมาณ 5 ขั้นบันได เพื่อให้ลมสามารถไหลผ่านลดความชื้นข้างใต้ไม่ทำลายโครงสร้างของบ้าน ระเบียงด้านนอกซึ่งได้รับการปกป้องในช่วงเวลาต่างๆ ของวันจากแผงไม้ที่ควบคุมด้วยมือและกันสาด มอบประสบการณ์ใช้ชีวิตกึ่งกลางแจ้งขนาดเล็กในสภาพภูมิอากาศแบบต่างๆ ทั้งร้อนและเย็นจากแสงแดดและสภาพลม ซึ่งจะเปลี่ยนไปเมื่อเคลื่อนที่ไปรอบๆ บ้าน phuket villa
เมื่อเข้ามาดูในตัวบ้านจะเห็นว่าจริง ๆ แล้วรอบบ้านจะมีผนังกระจกอยู่ข้างในอีก 1 ชั้น ทำให้บ้านกลายเป็นระบบผนังสองชั้นมีเปลือกคอยปกป้องอยู่ด้านนอก ผนังกระจกในส่วนหน้าและหลังบ้านจะติดเต็มพื้นที่จากพื้นถึงจั่วหลังคา สร้างความรู้สึกเปิดกว้างและความต่อเนื่องระหว่างการตกแต่งภายในและภูมิทัศน์โดยรอบ เปิดมุมมองให้รับภาพทิวทัศน์ตรงหน้าได้ชัดเจนเต็มที่แบบไม่มีอะไรมากั้น เป็นการสร้างบ้านโดยจินตนาการถึงภูมิทัศน์ตามธรรมชาติและจัดจังหวะของบ้านให้ตรงกับสิ่งที่มี บ้านจัดสรร
ฟังก์ชันภายในประกอบด้วยสิ่งจำเป็นพื้นฐานที่บ้านทั่วไปต้องมี ไว่าว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องน้ำ ครัว ตลอดจนพื้นที่จัดเก็บที่จำเป็น เป็นตู้เก็บของที่สร้างขึ้นแยกต่างหาก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับใช้ชีวิตได้สบาย ๆ ในบ้านหลังเล็ก ๆ
บ้านโมดูลาร์คือบ้านกึ่งสำเร็จรูป เป็นลักษณะการสร้างบ้านระบบอุตสาหกรรม โดยหลักการที่สำคัญก็คือเป็นบ้านที่ใช้โครงสร้างแบบถอดประกอบได้ สร้างขึ้นจากชิ้นส่วนสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงงานแบบมีมาตรฐาน แล้วยกมาประกอบเป็นอาคารที่ไซต์งาน ทำให้ระยะเวลาการก่อสร้างรวดเร็วไม่ต้องรอนาน หน้างานสะอาด สามารถเคลื่อนย้ายขนส่งได้ง่ายแม้ในสถานที่ทุรกันดาร แต่อาคารแบบนี้จะมีข้อด้อยที่วัสดุที่มักประกอบด้วยเหล็ก ไม้สังเคราะห์ กระจก อาจมีประสิทธิภาพในระยะสั้นกว่าการก่อสร้างทั่วไป ดังนั้นจึงควรเลือกบริษัทใช้ใช้วัสดุคุณภาพดี และวิเคราะห์สภาพแวดล้อมนั้นๆ ด้วยว่าวัสดุและลักษณะของบ้านเหมาะสมหรือไม่ บ้านเดี่ยว
ข้อดี
- แม้ไม้จะมีคุณสมบัติป้องกันความร้อนได้ไม่ดีนัก แต่ก็ถ่ายเทความร้อนได้รวดเร็ว บ้านที่ปลูกสร้างด้วยไม้จึงเย็นสบาย ไม่อบอ้าว เป็นคุณสมบัติที่วัสดุอื่นๆ ทําไม่ได้ เหมาะกับสภาพอากาศเมืองร้อนชื้นแบบไทย
- ไม้มีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นสีสันลวดลายที่ไม่ซ้ํากันในแต่ละแผ่นหรือท่อน ผิวสัมผัสที่ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาตินุ่มนวล ไม้จึงเป็นวัสดุในอุดมคติของทั้งเจ้าของบ้านและนักออกแบบตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
- ในเรื่องของความแข็งแรง หากเกิดแผ่นดินไหว บ้านไม้จะมีความยืดหยุ่น คงทน และแข็งแรง
- อย่าเข้าใจผิดว่าบ้านไม้เป็นสิ่งทำลายธรรมชาติ เพราะไม้เมื่อนำมาใช้แล้วเราสามารถกลับไปปลูกทดแทนได้ ต่างจากบ้านปูนที่จะได้มาต้องระเบิดภูเขา
ข้อเสีย
- มักจะมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดเวลาเดิน อาจดูวังเวงในเวลากลางคืน
- บ้านไม้ก็มักจะมีปัญหาเรื่องของปลวก และแมลงต่างๆที่มากัดกินไม้ จึงจำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาไม้เป็นพิเศษ
- วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างบ้านไม้มักจะแพง เนื่องจากไม้มีราคาที่ค่อนข้างสูงพอสมควร ยิ่งไม้เนื้อดีๆ ไม้เนื้อแข็ง ก็ยิ่งมีราคาแพง
- การหาช่างฝีมือที่มีความชำนาญในงานไม้นั้นยาก ถ้าหาได้ช่างไม่ดีคุณอาจจะเสียค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากๆขึ้นเท่าตัว
- ตัววัสดุมีการยืด-หดตามสภาพอากาศ บางครั้งจึงเกิดปัญหาบ้านรั่วซึมระหว่างช่องว่างของไม้ได้